วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

14:17
1
 อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ Mechanical Keyboard

    
      Mechanical Keyboard ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในปี 1990 เป็นคีย์บอร์ดที่แต่ละคีย์(หรือปุ่ม)แต่ละคีย์จะมีกลไกและสปริงเป็นของตัวเอง ข้อดีของมันคือเวลาที่คุณกดลงไปแล้วมีเสียงแกร๊กนั่นคือคุณได้กดคีย์ตัวนั้นและมันก็ได้ส่งข้อมูลของคีย์นั้นไปปะมวลผลแล้ว ซึ่งต่างจากคีย์บอร์ดยางที่ไม่มีเสียงอะไรบอกว่ามันได้ถูกกดไปแล้ว ทำให้ความแม่นยำและความรู้สึกเวลาที่กดลงไปของแต่ละคีย์ของ แมคคานิคอลคีย์บอร์ดและคีย์บอร์ดยางนั้นแตกต่างกันมาก แต่ข้อเสียงของมันก็คือราคาที่สูงและน้ำหนักมากทำให้มีคนประดิษฐ์คิดค้นคีย์บอร์ยางขึ้นมาใช้ ซึ่งมีราคาถูกและเบากว่าแมคคานิคอลคีย์บอร์ดมากแต่ใช้งานได้เหมือนกัน
ข้อดีของ Mechanical Keyboard ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ คีย์บอร์ดชนิดนี้จะมีความแข็งแรงคงทนกว่าคีย์บอร์ดแบบธรรมดาหลายเท่า รองรับการกดคีย์พร้อมกันได้มากกว่า และสามารถกดได้จำนวนครั้งที่มากกว่าเช่น สามารถกดได้ 16 ล้านครั้งเป็นต้น คีย์ทุกคีย์จะมีกลไกเป็นของตัวเองหมด ถ้าหากแมคคานิคอลคีย์บอร์ดนั้นมีทั้งหมด 200 คีย์ ก็จะมีสปริงและกดไกทั้งหมด 200 ชิ้นเช่นกัน ทำให้มีน้ำหนักมากกว่าคีย์บอร์ดยางแบบธรรมดาหลายเท่า มาดูกลไกของแมคคานิคอลคีย์บอร์ดกันครับ

 เห็นได้ว่าแต่ละคีย์ของ Mechanical Keyboard จะมีกลไกเป็นของตัวเอง เวลากดก็จะมีเสียงและมีสปริงเด้งกลับ

ปัจจุบัน Mechanical Keyboard ถูกใช้กันเป็นอย่างมากในกลุ่ม Gamer เพราะว่าการใช้คีย์บอร์ดชนิดนี้จะมีความผิดพลาดน้อยกว่าคีย์บอร์ดยางแบบธรรมดา เพราะเวลาที่กดเราสามารถสัมผัสได้ทันที่ว่าได้กดลงไปแล้ว แต่คีย์บอร์ดยางก็ยังมีสัมผัสที่ทำให้เรารู้เหมือนกันว่าได้กดลงไปแล้ว แต่แมคคานิคอลคีย์บอร์ดจะมีความแม่นยำมากกว่าซึ่ง Gamer ก็จะใช้ข้อแตกต่างของคีย์บอร์ดทั้งสองชนิดนี้เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเองเวลาเล่นเกม
แต่นอกจาก Gamer แล้วก็ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่ใช้แมคคานิคอลคีย์บอร์ดเช่นกันอย่างใครที่เป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องพิมพ์งานอยู่เป็นประจำก็สามารถเลือกใช้แมคคานิคอลคีย์บอร์ดเพื่อลดความผิดพลาดเวลาพิมพ์งานได้เช่นกัน


บริษัท Cherry Corp เป็นบริษัทที่ผลิตสวิตซ์ที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันนี้ ดังนั้น Mechanical Keyboard ที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่แล้วจะใช้สวิตซ์ของบริษัทเชอรี่ จุดเด่นของสวิตซ์จากบริษัทเชอร่คือ แต่ละสวิตซ์จะแบ่งแยกกันโดยใช้สีซึ่งปัจจุบันมี ดำ แดง น้ำเงิน น้ำตาล ขาว เทา และเขียว ซึ่งสวิตซ์แต่ละสีจะมีข้อแตกต่างกันคือการใช้แรงกดและจังหวะในการเด้ง ถ้าเป็นสีดำก็จะใช้แรงกดมากและเด้งจังหวะเดียว ถ้าเป็นสีน้ำเงินก็จะใช้แรงกดน้อยและเด้งสองจังหวะเป็นต้น 

ทางบริษัท Cherry Corp ได้แบ่งประเภทของสวิตซ์เป็นสองประเภทใหญ่ๆคือ
Linear Switch เป็นสวิตซ์ที่มีแรงต้านคงที่อยู่ตลอดเวลา การเด้งก็จะเด้งจังหวะเดียว ใช้แรงกดมาก
Tactile Switch  เป็นสวิตซ์ที่มีแรงต้านไม่คงที่คือจะมีช่วงที่ต้านการกดและช่วงที่ไม่ต้านการกด มีการทำงานแบบสองจังหวะ ใช้แรงกดน้อยกว่า Linear Switch

เพื่อลดต้นทุนในการผลิต Mechanical Keyboard หลายบริษัทจึงได้ทำ Switch ขึ้นมาเองแทนที่จะใช้ของบริษัท Cherry Corp ซึ่งคุณภาพนั้นก็จะแตกต่างกันพอสมควรทำให้มีปัญหาหลายครั้งกับการใช้สวิตซ์ของค่ายอื่นที่ไม่ใช่เชอรี่


การที่จะเลือกซื้อ Mechanical Keyboard คุณจะต้องหาสไตล์ของตัวเองให้เจอว่าคุณชอบสวิตซ์แบบไหน แบบเสียงเบาใช้แรงกดเยอะ หรือเสียงดังใช้แรงกดน้อย หรือชอบเสียงเด้งของสวิตซ์แบบสองจังหวะเป็นต้นซึ่งจะมาดูกันว่าแต่ละสีของสวิตซ์ใช้แรงกดเท่าไหร่แล้วเด้งกี่จังหวะ

Cherry MX Black Switch


ใช้น้ำหนักในการกดอยู่ที่ 60 cN เป็นสวิตซ์ที่ใช้แรงกดมากที่สุดที่นำมาติดตั้งใน Mechanical Keyboard การเด้งเป็นแบบจังหวะเดียวถ้าซื้อไปใช้ในการเล่นเกมก็ควรจะเป็นเกมที่กดผิดปุ่มเดียวแล้วทำให้เกมเปลี่ยนไปเลย เช่นถ้ากดผิดปุ่มจะทำให้เกิดความเสียหายภายในเกมกับตัวผู้เล่น ซึ่ง Black Switch จะทำให้ปัญหานั้นลดลงเพราะการกดต้องใช้แรงมากทำให้ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้ยากครับ

Cherry MX White Switch


ใช้น้ำหนักในการกดอยู่ที่ 60-70 cN ซึ่งจะใกล้เคียงกับ Black Switch มาก แต่การเด้งของ White Switch จะเป็นแบบสองจังหวะ ซึ่งสวิตซ์รุ่นนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไหร่แต่ก็มี Mechanical Keyboard บางรุ่นที่เลือก White Switch ไปติดตั้ง

Cherry MX Red Switch


ใช้น้ำหนักในการกดอยู่ที่ 45 cN การเด้งจะเป็นแบบ Linear Switch หรือเด้งจังหวะเดียวซึ่งใครที่ชอบการเด้งจังหวะเดียว ใช้แรงกดมากแต่ไม่มากเท่า Black Switch ซึ่งใครที่กำลังมองหา Mechanical Keyboard ที่ใช้แรงกดที่น้อยกว่า Black Switch และเด้งแบบจังหวะเดียวก็ Cherry MX Red Switch เลยครับซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมมากกว่า Black Switch เสียอีก

Cherry MX Blue Switch 


ใช้แรงกดอยู่ที่ 50 cN และจะเริ่มทำงานเมื่อใช้แรงกด 60 cN การทำงานเป็นแบบสองจังหวะ เป็นสวิตซ์ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เป็นสวิตซ์ที่เหมาะกับการใช้งานแบบพิมพ์รัวๆเพราะจะพิมพ์มันมาก หรือถ้าใช้ในการเล่นเกมก็จะเป็นเกมที่จะต้องกดปุ่มแบบรัวๆ ซึ่งเจ้า Blue Switch จะตอบโจทย์มาก แต่เสียงของมันจะดังมากดังกว่าเสียงพูดซะอีกดังนั้นเหมาะสำหรับใช้ในห้องที่อยู่คนเดียวจะทำให้ไม่รบกวนคนอื่น Mechanical Keyboard ที่ใช้ Blue Switch ปัจจุบันมีหลายรุ่นมากเพราะเป็นที่นิยม

Cherry MX Brown Switch


ใช้แรงกดอยู่ที่ 45 cN และจะเริ่มทำงานเมื่อใช้แรงกด 55 cN มีการเด้งแบบ Tactile Switch หรือเด้งสองจังหวะ ซึ่ง Brown Switch ได้ถูกพัฒนาให้มีเสียงรบกวนน้อยกว่า Blue Switch สามารถรบเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง หากใครที่ชอบ Mechanical Keyboard แบบสองจังหวะแต่เสียงรบกวนน้อยกว่า Blue Switch เจ้าสวิตซ์สีน้ำตาลนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกในการเลือกซื้อแมคคานิคอลคีย์บอร์ดสไตล์ของคุณ

Cherry MX Green Switch


ใช้แรงกดอยู่ที่ 80 cN และมีการทำงานแบบสองจังหวะ Mechanical Keyboard ที่ใช้ Green Switch จะตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดีกว่า Black Switch แต่สวิตซ์สีเขียวนี้ยังไม่ได้นำไปติดตั้งในแมคคานิคอลคีย์บอร์ดหลายรุ่นนัก เพราะราคาของ Green Switch จะแพงกว่าสวิตซ์สีดำและน้ำเงิน

สรุปข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
- ให้สัมผัสที่ดี
- ป้องการการกดผิดได้ดีในระดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับสวิตซ์ที่เลือกใช้ด้วย
- แข็งแรง เพราะวัสดุที่เลือกมาใช้ในการทำ Mechanical Keyboard นั้นจะเน้นที่ความแข็งแรงคงทนซึ่งเป็นคุณสมบัติหนึ่งของแมคคานิคอลคีย์บอร์ด
- รองรับการรกดพร้อมกันได้หลายคีย์ เช่นกดทีเดียว 13 คีย์ก็ติดทั้ง 13 คีย์เลย
รองรับการกดได้หลายครั้งซึ่ง Mechanical Keyboard ในปัจจุบันสามารถรองรับการกดได้ถึง 50 ล้านครั้ง

ข้อเสีย
- ราคาสูง
- น้ำหนักมาก

ความรู้สึกของคนที่ใช้ Mechanical Keyboard แน่นอนว่ามันให้สัมผัสที่ดีกว่าคีย์บอร์ดยางแบบธรรมดามากการกดที่เลือกสไตล์ของตัวเองได้จะทำให้คุณสนุกที่ได้ใช้ ถ้าคุณได้ลองใช้แมคคานิคอลคีย์บอร์ดแล้วละก็ การจะกลับมาใช้คีย์บอร์ดยางอาจจะต้องทำใจซักนิดนึง เพราะคุณอาจจะไม่อยากกลับมาใช้คีย์บอร์ดยางอีกต่อไปเลย ถ้าอยากได้แมคคานิคอลคีย์บอร์ดดีๆซักตัวนึงก็จะต้องใช้งบประมาณ 2,000 บาทขึ้นไปเพื่อที่จะได้ของดีมีคุณภาพ แต่ถามว่าจำเป็นไหมสำหรับบางคนก็ไม่จำเป็นเพราะคีย์บอร์ดยางก็ใช้งานได้เหมือนกัน แต่ถ้าใครที่มีเงินและอยากจะลองใช้คีย์บอร์ดดีๆ คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกดีๆเวลาสัมผัสเวลากดลงไปในแต่ละคีย์ ก็ควรหามาไว้ครอบครองซักตัวแล้วคุณจะไม่อยากกลับไปใช้คีย์บอร์ดแบบธรรมดาอีกเลย


Next
This is the most recent post.
บทความที่เก่ากว่า

1 ความคิดเห็น: